เขียนในแบบฟอร์มคำฟ้อง (๔) เมื่อเขียนแบบฟอร์มครบแล้ว
ต่อมาข้อ ๑ เขียนว่า
ข้อ ๑.
เมื่อวันที่ ....เดือน...............พ.ศ..........
จำเลยได้กู้ยืมเงินโจทก์เป็นเงินจำนวน ....................บาท
(.....................................) ตกลงคิดดอกเบื้ยกันในอัตราชั่งละ ๑
บาทต่อเดือน หรือร้อยละ ๑.๒๕ บาทต่อเดือน
โดยจำเลยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวไปจากโจทก์ครบถ้วนแล้วตั่งแต่วันทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน
และจำเลยได้นำโฉนดที่ดินเลขที่ ......................
ตำบล.......................อำเภอ............................... จังหวัด..........................มาให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้
รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือสัญญากู้ยืมเงินและสำเนาโฉนดที่ดิน
เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๑ และ ๒ (ข้อความที่นำมาเขียนในช่วงนี้ก็นำมาจากสัญญากู้ยืมฉบับจริงที่ทำการกู้ยืมกันนั้นเอง)
ข้อ ๒.
นับตั้งแต่จำเลยได้กู้ยืมเงินโจทก์ดังกล่าวไป
จำเลยหาได้ชำระต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ไม่ โจทก์ติดตามทวงถาม
จำเลยก็ผัดผ่อนเรื่อยมา โจทก์จึงได้มอบอำนาจให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามไปยังจำเลย
จำเลยได้รับทราบแล้วก็ยังคงเพิกเฉยอยู่ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาหนังสือบอกกล่าวทวงถามและสำเนาใบตอบรับของการสื่อสารแห่งประเทศไทย
เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๓ และ ๔
ข้อ ๓.
การที่จำเลยไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ดังกล่าวเป็นการผิดนัดผิดสัญญากู้ยืมเงิน
โจทก์จึงขอคิดต้นเงินและดอกเบี้ยดังนี้ จำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ถึงวันฟ้อง
เป็นเวลา ๓ ปี ๓ เดือนเศษ ตกลงคิดดอกเบี้ยกันร้อยละ ๑.๒๕ ต่อเดือน
หรือร้อยละ ๑๕ ต่อปี ต้นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท
คิดเป็นเงินค่าดอกเบี้ยที่จำเลยค้างชำระ ๒๙,๒๕๐ บาท (สองหมื่นเก้าพันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน)
เมื่อรวมกับต้นเงินดังกล่าวจึงรวมเป็นเงินที่จำเลยต้องชำระให้โจทก์รวมทั้งสิ้น
๘๙,๒๕๐ บาท (แปดหมื่นเก้าพันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน) กับให้ชำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละ
๑๕ ต่อปี ในต้นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่โจทก์ด้วย
โจทก์ไม่มีทางอื่นใดที่จะบังคับจำเลยได้
จึงต้องฟ้องคดีต่อศาลขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
คำขอท้ายฟ้องแพ่ง (๕)
เขียนในแบบฟอร์ม
เริ่มที่ข้อ ๑ ได้เลย
๑. ให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์เป็นจำนวนเงิน
๘๙,๒๕๐ บาท (แปดหมื่นเก้าพันสองร้อยห้าสิบบาทถ้วน) พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี
ของต้นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท (หกหมื่นบาทถ้วน) นับจากวันฟ้องเป็นต้นไป
จนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จสิ้น
๒. ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์ด้วย
(ด้านล่างสุด)
ข้าพเจ้าได้ยื่นสำเนาคำฟ้องโดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกัน มาด้วย ๑ ฉบับและรอฟังคำสั่งอยู่ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว
เยี่ยมมากครับ
ตอบลบเลิศหรู
ตอบลบอาตมา (พระครูวิธานสุพัฒนกิจ, ดร.) กำลังเรียนนิติศาสตร์ ปีสุดท้าย เทอมสุดท้าย ฝึกปฏิบัติว่าความ (ศาลจำลอง) คดีอาญา และคดีแพ่ง อ่านแล้วเข้าใจมาก จร้า
ตอบลบเจริญพร
มีประโยชน์กับผู้ที่สนใจเกี่ยวแก่การนี้มากเลยครับ
ตอบลบมีประโยชน์กับผู้ศึกษากฎหมายมากเลยค่ะ ขอบคุณที่เผยแผ่ความรู้ เป็นวิทยาทาน ขออนุญาตนำไปใช้เพื่อการศึกษานะคเะ
ตอบลบขอบคุณล่วงหน้าค่ะ