วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การบอกกล่าวทวงถาม และมีหนังสือบอกกล่าวทวงถาม หรือโนติสนั้นเอง ซึ่งเป็นหัวข้อที่ ๓


                         เมื่อทนายความสอบข้อเท็จจริง ปรับข้อเท็จจริงเข้ากับหลักกฎหมายแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมาก็คือ การออกหนังสือบอกกล่าวทวงถามให้กับคู่กรณีฝ่ายตรงข้ามให้ได้รู้ถึงความประสงค์ของตัวความว่าต้องการอย่างไร ตามกฎหมายบังคับให้บางเรื่องต้องมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามก่อนถึงจะฟ้องคดีได้ แต่บางเรื่องไม่ต้องมีหนังสือบอกกล่าวก็ฟ้องคดีได้เลย ตามกฎกติกามารยาแล้ว ทนายความจะมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามทุกเรื่องที่ทำ ส่งให้คู่กรณีฝ่ายตรงข้ามปฏิบัติตามเจตนาลมของคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อเกิดโอกาสให้มีการเจรจาตกลงกัน เพื่อที่จะลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล และลดความขัดแย้งที่คู่ความทั้งสองฝ่ายมีต่อกันอีกด้วยถ้าทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ ถ้าตกลงกันไม่ได้หนังสือบอกกล่าวก็อ้างเป็นพยานเอกสารท้ายฟ้องหรือคำร้องอีกด้วย

ตัวอย่างหนังสือบอกกล่าว เรื่องขอให้ชำระหนี้

                                                                                                     ชื่อ .................. ทนายความ.............. หมู่ ๕
                                                                                                     ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
                                                                                                     ๑๒๑๒๐    โทร. ...................................
                                                                                                                               
                                                                                             วันที่   ๑๕  มีนาคม  ๒๕๕๔

เรื่อง ขอให้ชำระหนี้
เรียน ..........................................         ผู้กู้
อ้างถึง  หนังสือสัญญากู้ยืมเงินระหว่าง ............................................. ผู้ให้กู้ กับ ผู้กู้
           ฉบับลงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓
                                ตามสัญญากู้เงินที่อ้างถึง ท่านได้กู้ยืมเงินไปจาก ........................................... ผู้ให้กู้ เป็นเงินจำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท ( สามหมื่นบาทถ้วน ) โดยท่านตกลงชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว และสัญญาคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยให้แก่ผู้ให้กู้ภายในกำหนดวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ นั้น
                                บัดนี้ปรากฏว่า เมื่อครบกำหนดตามสัญญาวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ ท่านมิได้นำต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยมาชำระนับเป็นเวลา ๗ เดือนเศษแล้ว จึงถือได้ว่าท่านผิดสัญญาตามที่ได้ตกลงกันไว้ ผู้ให้กู้จึงได้มอบหมายให้ข้าพเจ้าดำเนินการทวงถามท่านให้ชำระเงินต้น จำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) พร้อมทั้งดอกเบี้ยตามสัญญาอีกจำนวน ๑,๓๑๒ บาท (หนึ่งพันสามร้อยสิบสองบาทถ้วน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๑,๓๑๒ บาท (สามหมื่นหนึ่งพันสามร้อยสิบสองบาทถ้วน)
                                ข้าพเจ้าทนายความผู้รับมอบอำนาจจึงเรียนมายังท่าน เพื่อนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจำนวนดังกล่าวไปชำระให้กับนายประสาน เกตุสถล ผู้ให้กู้  ภายในกำหนด ๗ วัน นับแต่วันรับหนังสือฉบับนี้ ก่อนที่ข้าพเจ้าจะได้ดำเนินการทางคดีกับท่านต่อไป
                                                                                                                                       
                                                                                                                   ขอแสดงความนับถือ


                                                                                                           ทนายความผู้รับมอบอำนาจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น