ข้อ ๑. โจทก์ที่ ๑
เป็นบิดา และโจทก์ที่ ๒ เป็นมารดา โดยชอบด้วยกฎหมายของนาย........................................บุตรผู้เสียชีวิต
รายละเอียดปรากฏตามสำเนาทะเบียนสมรสและสูติบัตร เอกสารท้ายฟ้อง หมายเลข ๑ และ ๒ (หมายเหตุ ชื่อบิดาและมารดาไม่ต้องเขียนชื่อไปเพราะว่าเขียนชื่อบิดาและมารดาไว้บนแบบฟอร์มแล้วเมื่อเขียนถึงก็ไม่ต้องอ้างชื่ออีก)
ข้อ
๒. จำเลยคือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเป็นผู้ควบคุม
ครอบครอง ดูแล สายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้า บริเวณที่เกิดเหตุคือที่..........................หมู่ที่...............ตำบล...................อำเภอ...................จังหวัด.........................
ข้อ
๓. เมื่อวันที่.......เดือน.........พ.ศ........นาย............................ได้เดินลุยน้ำที่ท่วมขังเนื่องจากเหตุอุทกภัย
บนถนนเพื่อที่จะเข้าไปยังบ้านของตัวเอง ปรากฏว่าเมื่อถึงที่เกิดเหตุคือบริเวณ
หมู่............ตำบล...........อำเภอ.................จังหวัด.......................บริเวณเสาไฟต้นที่.............ได้มีกระแสไฟฟ้ารั่วมาจากเสาไฟและสายไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวดูดร่างของนาย.......................จนถึงแก่ความตาย
รายละเอียดปรากฏตามใบมรณบัตรและใบแจ้งความ เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๓ ,และ ๔
ข้อ
๔. กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย กล่าวคือ
โจทก์ได้จัดทำพิธีศพตามหลักศาสนาค่าใช้จ่ายในการปรงศพนาย........................................ผู้ตาย
เป็นเงิน.....................บาท(.........................................)
การที่ผู้ตายซึ่งเป็นบุตรมาเสียชีวิตเป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสองขายไร้อุปาระ
ปัจจุบันโจทก์ที่ ๑ มีอายุ.....ปี จึงขอเรียกค่าขาดอุปการะเป็นเวลา ............ปี
คิดเป็นเงิน...............................บาท โจทก์ที่ ๒ ปัจจุบันมีอายุ...........ปี
จึงขอเรียกค่าขาดไร้อุปการะเป็นเวลา............ปี คิดเป็นเงิน..........................บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น....................................................บาท
(....................................................)
จำเลยเป็นผู้ควบคุม
ครอบครอง ดูแล สายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้า จึงต้องรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง
และหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้เงินจำเลยจึงต้องชำระดอกเบี้ยผิดนัดแก่โจทก์ทั้งสองในอัตราร้อยละ
๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินค่าเสียหายทั้งหมดดังกล่าว นับตั่งแต่วันทำละเมิดเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้เสร็จ
ดอกเบี้ยค่าปลงศพจนถึงวันฟ้องเป็นเงิน
................... บาท ดอกเบี้ยจากค่าขาดไร้อุปการะของโจทก์ที่ ๑ และโจทก์ที่ ๒ คำนวณจนถึงวันฟ้องรวมเป็นเงิน.............................บาท
ข้อ ๕.
ดังนั้นคิดค่าปลงศพและดอกเบี้ย ค่าขาดไร้อุปการะของโจทก์ที่ ๑ และ ๒ รวมดอกเบี้ย
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น....................................บาท
(..............................................................)
โจทก์ทั้งสองได้มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวทวงถามให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าว
แต่จำเลยก็ยังเพิกเฉย รายละเอียดปรากฏตามหนังสือบอกกล่าวทวงถามและไปรษณีย์ใบตอบรับในประเทศ
ตามเอกสารท้ายฟ้อง หมายเลข ๕ และ ๖
โจทก์ทั้งสองไม่มีทางอื่นใดที่จะบังคับกับจำเลยได้จึงต้องขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
คำขอท้ายฟ้องแพ่ง
(๕)
๑. ให้จำเลยชำระเงินค่าปลงศพจำนวน.....................................บาท
และค่าขาดไร้อุปการะของจำเลยที่ ๑ รวมเป็นเงิน
..................................บาท ค่าขาดไร้อุปการะของจำเลยที่ ๒
รวมเป็นเงิน.............................บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น...............................................บาท(............................)
๒. ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี
ของต้นเงิน ..................................บาท
นับตั้งแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่โจทก์ทั้งสอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น